วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประวัติ ปรุฬห์ รุจนธำรงค์


ประวัติการศึกษา:
- พ.ศ.2550 เภสัชศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- พ.ศ.2552 นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- พ.ศ.2557 นิติศาสตรมหาบัณฑิต (กฎหมายมหาชน) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปัจจุบัน
          (เม.ย.2555-ปัจจุบัน) นักวิชาการศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ประสบการณ์การทำงาน:
- เภสัชกรประจำ/ผู้จัดการสาขา, ร้านยาฟาสซิโน สาขาโรบินสันสีลม
- นักวิชาการแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วิทยากร/อาจารย์พิเศษ
- อาจารย์พิเศษคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม วิชา 200-554 กฎหมายทางเภสัชศาสตร์ 
      (1) ปีการศึกษา 2556, 2557 รับผิดชอบเรื่อง พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2535, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522, พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535, พ.ร.บ.ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.2551, กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์สุขภาพ (รวมตลอดวิชาในแต่ละปีการศึกษา 16 ชั่วโมง)
       (2) ปีการศึกษา 2558 รับผิดชอบเรื่อง พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522, พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518, กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์สุขภาพ (รวม 10 ชั่วโมง)
- วิทยากร เรื่อง "ความรู้ทางกฎหมายและจรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม" ณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต วันที่ 8 มิถุนายน 2556, 11 มกราคม 2557, 3 พฤษภาคม 2557, 20 ธันวาคม 2557, 25 กรกฎาคม 2558, 26 มีนาคม 2559, 2 เมษายน 2559 (เวลา 9.00-17.00 น.)
- วิทยากร เรื่อง "กฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงธุรกิจ" วันที่ 4 กันยายน พ.ศ.2557 เวลา 13.00-16.00 น. จัดโดยหน่วยจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (TLO-UBI) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
-  วิทยากร เรื่อง "ความแตกต่างระหว่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 กับร่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ. .... " เวลา 11.00-12.30 น. ณ อาคารเรียนรวมชั้น 1 ห้อง 2-114 มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ 
- อาจารย์พิเศษ บรรยายเรื่อง "จรรยาบรรณวิชาชีพเภสัชกรรม" ณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต วันที่ 23 เมษายน 2558 เวลา 13.00-14.00 น.
- วิทยากร เรื่อง "ความรู้ทางกฎหมายและจรรยาบรรณที่เกี่ยวข้องในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม" ณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559  (เวลา 8.00-16.00 น.)
- วิทยากร เรื่อง "Online ให้ถูกต้อง ในยุค Digital Economy" วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2559 เวลา 9.00-16.30 น. ณ ห้อง 506 อาคารเรียนรวม 32 มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จัดโดยคณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 


กิจกรรมอื่นๆ:
1) คณะทำงานประเด็นกฎหมาย องค์กร และกลไกคุ้มครองผู้บริโภค ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการยกร่างสาระสำคัญตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 มาตรา 47(8) ที่ 1/2551 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงาน สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
2) ผู้ทำงานและผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงานจัดเวทีสาธารณะเพื่อจัดทำข้อมตินโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อคนไทยเข้าถึงยาถ้วนหน้า  ตามคำสั่งสภาเภสัชกรรม ที่ 123/2551 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานจัดทำมตินโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อคนไทยเข้าถึงยาถ้วนหน้า สั่ง ณ วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
3) ผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการอำนวยการจัดประชุมเตรียมการสมัชชาเภสัชกรรมไทย 100 ปี ตามคำสั่งสภาเภสัชกรรมที่ 96/2552 เรื่อง คณะกรรมการจัดประชุมเตรียมการสมัชชาเภสัชกรรมไทย 100 ปี (พ.ศ.2556): บทบาทวิชาชีพเภสัชกรรมไทยและการศึกษาเภสัชศาสตร์ในศตวรรษหน้า สั่ง ณ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2552
4) ผู้ช่วยเลขานุการในคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอมาตรการจัดการอันตรายจากแร่ใยหิน ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 133/2553 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอมาตรการจัดการอันตรายจากแร่ใยหิน สั่ง ณ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553
5) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดการปัญหาโฆษณาที่ผิดกฎหมายของยา อาหาร และผลิตภัณฑ์สุขภาพทางวิทยุกระจายเสียง สื่อโทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ต ตามคำสั่งคณะกรรมการอาหารและยาที่ 253/2555 สั่ง ณ วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2555
6) กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมการอำนวยการ และคณะกรรมการจัดงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100ปี วิชาชีพเภสัชกรรม ตามคำสั่งสภาเภสัชกรรมที่ 40/2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดประชุมสมัชชาเภสัชกรรมไทย 100 ปี (พ.ศ.2556) เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วิชาชีพเภสัชกรรมและการศึกษาเภสัชศาสตร์ สั่ง ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2556
7) อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาและติดตามกฎหมายหรือร่างกฎหมายที่มีผลต่อการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ตามคำสั่งสภาเภสัชกรรมที่ 45/2556 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาและติดตามกฎหมายหรือร่างกฎหมายที่มีผลต่อการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม สั่ง ณ วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2556 
8) อนุกรรมการ ในคณะอนุกรรมการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ตามคำสั่งสภาเภสัชกรรมที่ 14/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสื่อสารประชาสัมพันธ์ สั่ง ณ วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2557
9) คณะทำงานประสานเพื่อการพัฒนาข้อเสนอประเด็นการจัดการยาสเตียรอยด์ที่คุกคามสุขภาพคนไทย ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2557 ที่ 10/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานประสานเพื่อการพัฒนาข้อเสนอประเด็น สั่ง ณ วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2557 
10) อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุ ตามคำสั่งคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 82/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุ สั่ง ณ วันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2558
11) คณะทำงานพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายเฉพาะประเด็น วิกฤติการณ์เชื้อแบคทีเรียดื้อยาและการจัดการปัญหาแบบบูรณาการ. ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2558 ที่ 2/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาข้อเสนอนโยบายเฉพาะประเด็นว่าด้วยวิกฤติการณ์เชื้อดื้อยาและการจัดการปัญหาแบบบูรณาการ สั่ง ณ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2558


งานเขียน/งานวิชาการ
1) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2556). “จรรยาบรรณหรือจริยธรรมเภสัชกร” ใน การบูรณาการการบริบาลทางเภสัชกรรมผู้ป่วยไป-กลับ. อภิฤดี เหมะจุฑา และพรอนงค์ อร่ามวิทย์ บรรณาธิการ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หน้า 284-335
2) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (หนึ่งในทีมผู้เขียนสถานการณ์เด่นทางสขภาพร่างแรก) (2558). สุขภาพคนไทย 2558. พิมพ์ครั้งที่ 1. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล

วารสารสมาคมร้านขายยา 
1ปรุฬห์ รุนธำรงค์ (2558). บัญชียาในร้านขายยาแผนปัจจุบันและเงื่อนไขการขายยา. ารสารยาสมาคมร้านขายยา ประเทศไทย. ฉบับกรกฎาคม-สงหาคม 2558, หน้า 24-32
2) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2558). ร้านยาแบบไหน เจ้าหน้าที่จะไปตรวจยาต้องห้ามารสารยาสมาคมร้านขายยา ประเทศไทย. ฉบับกันยายน-ตุลาคม 2558, หน้า 23-25
3) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2558) .  กฎหมายได้กำหนดอะไรบ้างเพื่อให้ร้านยาเป็นร้านยาเพื่อชุมชน. ารสารยาสมาคมร้านขายยา ประเทศไทย. ฉบับพฤศจิกายน-ธันวาคม 2558, หน้า 23-26

วารสารวงการยา
1) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์. "สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายยา รอบปี พ.ศ.2558". วงการยา. ฉบับเดือนมกราคม 2559 
 
วารสารยาวิพากษ์ (แผนงาน กพย.) 
1ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2553). บทบาทที่เปลี่ยนแปลงของเภสัชกร ตามร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่. ยาวิพากษ์. ปีที่ 3 ฉบับที่ 7 ธันวาคม 2553, หน้า 12-13
2ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2555). การจัดการมาตรฐานยาบริจาค. ยาวิพากษ์. ปีที่ 4 ฉบับที่ 13 มกราคม 2555, หน้า 10-13
3ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2555). เหลียวมองการจัดการปัญหาสเตียรอยด์ในต่างประเทศ. ยาวิพากษ์. ปีที่ 5 ฉบับที่ 15 ตุลาคม 2555, หน้า 7-10
4ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2556). จากคดีจีเอสเค เมื่ออุตสาหกรรมยาไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม. ยาวิพากษ์. ปีที่ 5 ฉบับที่ 16 ตุลาคม 2556, หน้า 3-10
5) ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2557). ลำดับเหตุการณ์โดยสังเขปเกี่ยวกับทะเบียนตำรับยาของไทย. ยาวิพากษ์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 20 มกราคม-มิถุนายน 2557, หน้า 19-26
6 ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2557). อาหารสัตว์ผสมยา. ยาวิพากษ์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 21 กรกฎาคม-สิงหาคม 2557, หน้า 36-40
7)  ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2557). ยุทธศาสตร์การจัดการปัญหายาสเตียรอยด์. ยาวิพากษ์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 22 กันยายน-ตุลาคม 2557, หน้า 8-9
8)  ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2557). สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ข้อเสนอเชิงประเด็น "การจัดการยาสเตียรอยด์ที่คุกคามสุขภาพคนไทย". ยาวิพากษ์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 22 กันยายน-ตุลาคม 2557, หน้า 15
9 ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ (2558). การควบคุมราคายาและค่าบริการทางการแพทย์ของไทย. ยาวิพากษ์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 26 มีนาคม-พฤษภาคม 2558, หน้า 22-27
 
                         
งานวิจัย                           
1) ผู้ช่วยวิจัย โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง “มาตรการทางกฎหมายในการส่งเสริมการพัฒนาที่สะอาด”. ผศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม หัวหน้าวิจัย (ทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา)
2) ผู้ช่วยวิจัย โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง “โครงการทบทวนและพัฒนากฎหมาย กฎระเบียบเพื่อการจัดตั้งระบบรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก.  (GHG Reporting System). ผศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม หัวหน้าวิจัย (ทุนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก)
3) ผู้ช่วยวิจัย โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง "โครงการศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจกของต่างประเทศ”. ผศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม หัวหน้าวิจัย (ทุนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก)
4) ผู้ช่วยวิจัย โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง "โครงการศึกษากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจกของประเทศกำลังพัฒนา ผศ.ดร.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม หัวหน้าวิจัย (ทุนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก)


วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ยกเลิกพืชสมุนไพรเป็นวัตถุอันตราย

ขณะนี้ได้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2553 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2553 ให้ยกเลิก วัตถุอันตรายตามบัญชี ข.ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร จำนวน 1 รายการ คือ ผลิตภัณฑ์จากชิ้นส่วนพืชซึ่งไม่ผ่านกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเฉพาะที่นำไปใช้ป้องกัน กำจัด ทำลาย ควบคุม แมลง วัชพืช โรคพืช ศัตรูพืช หรือควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่ สะเดา ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน ขิง ข่า ดาวเรือง สาบเสือ กากเมล็ดชา พริก คื่นฉ่าย ชุมเห็ดเทศ ดองดึง และหนอนตายหยาก

นั่นหมายความว่า พืชสมุนไพรดังกล่าวข้างต้นที่นำไปใช้ป้องกัน กำจัด ทำลาย ควบคุม แมลง วัชพืช โรคพืช ศัตรูพืช หรือควบคุมการเจริญเติบโตของพืช จะไม่เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 อีกต่อไป

เอกสารอ้างอิง
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2553 [ราชกิจจานุเบกษา 3 พฤศจิกายน 2553]
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2553/E/127/43.PDF



ข้อมูลในอดีต
ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2552 [ราชกิจจานุเบกษา 3 กุมภาพันธ์ 2552]
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/018/4.PDF

กระทู้ถามที่ 082 ร. เรื่อง ขอให้ยกเลิกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่กำหนดให้พืชอาหารและสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตราย ของ นายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร [ราชกิจจานุเบกษา 24 กรกฎาคม 2552]
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/104/38.PDF

กระทู้ถามที่ 005 ร. เรื่อง การประกาศบัญชีรายชื่อวัตถุอันตรายของกระทรวงอุตสาหกรรม ของ นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร [ราชกิจจานุเบกษา 16 ธันวาคม 2552]
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/180/83.PDF

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สิทธิด้านสุขภาพ

กฎหมายของไทยที่กล่าวถึงสิทธิด้านสุขภาพ มีดังนี้
1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2542) เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล การบริการอื่น ของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วยซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดง ตามมาตรา 32 (3) ซึ่งอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
3. พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
4. พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ.2551
5.  พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550
6. ประมวลกฎหมายอาญา




1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
สิทธิในการได้รับบริการสาธารณสุขและสวัสดิการจากรัฐ
          มาตรา 51 บุคคลย่อมมีสิทธิเสมอกันในการรับบริการทางสาธารณสุขที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน และผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
          บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการบริการสาธารณสุขจากรัฐซึ่งต้องเป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ
บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐอย่างเหมาะสมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและทันต่อเหตุการณ์
          มาตรา 52 เด็กและเยาวชน มีสิทธิในการอยู่รอดและได้รับการพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญา ตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ
          เด็ก เยาวชน สตรี และบุคคลในครอบครัว มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากรัฐ ให้ปราศจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิบัติอันไม่เป็นธรรม ทั้งมีสิทธิได้รับการบำบัดฟื้นฟูในกรณีที่มีเหตุดังกล่าว
การแทรกแซงและการจำกัดสิทธิของเด็ก เยาวชน และบุคคลในครอบครัว จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อสงวนและรักษาไว้ซึ่งสถานะของครอบครัวหรือประโยชน์สูงสุดของบุคคลนั้น
          เด็กและเยาวชนซึ่งไม่มีผู้ดูแลมีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาอบรมที่เหมาะสมจากรัฐ
          มาตรา 53 บุคคลซึ่งมีอายุเกินหกสิบปีบริบูรณ์และไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ มีสิทธิได้รับสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะอย่างสมศักดิ์ศรี และความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ
          มาตรา 54 บุคคลซึ่งพิการหรือทุพพลภาพ มีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากสวัสดิการ สิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ และความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ
          บุคคลวิกลจริตย่อมได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ
          มาตรา 55 บุคคลซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยและไม่มีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพ ย่อมมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสมจากรัฐ


2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2542) เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล การบริการอื่น ของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วยซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดง ตามมาตรา 32 (3) ซึ่งอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
คำประกาศสิทธิของผู้ป่วย
          1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
          2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความแตกต่างด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม ลัทธิการเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บป่วย
          3. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจน จากผู้ประกอบวิชาชีพเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น
          4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่
          5 ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน
          6. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานพยาบาลได้
          7. ผู้ป่วยสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
          8. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบการวิชาชีพ
          9. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น
          10. ผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ หรือผู้ป่วยที่บกพร่องทางกายหรือจิตซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้ให้ บิดา มารดา คู่สมรส บุตร หรือผู้แทนโดยชอบธรรม เป็นผู้ใช้สิทธิแทนบุคคลดังกล่าวได้

หมายเหตุ: ความตามข้อ 3 แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2542) เรื่อง ชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล การบริการอื่น ของสถานพยาบาลและสิทธิของผู้ป่วยซึ่งผู้รับอนุญาตจะต้องแสดง ตามมาตรา 32 (3) ซึ่งอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 106 ง หน้า 17 วันที่ 23 ธันวาคม 2542



3. พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550
สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ
          มาตรา 5 บุคคลมีสิทธิในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ
          Section 5. A person shall enjoy the right to live in the healthy environment and environmental conditions.
          บุคคลมีหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการให้เกิดสิ่งแวดล้อมและสภาพแวดล้อมตามวรรคหนึ่ง
          A person shall have the duties in cooperation with State agency in generating the environment and environmental conditions under paragraph one.

          มาตรา 6 สุขภาพของหญิงในด้านสุขภาพทางเพศและสุขภาพของระบบเจริญพันธุ์ซึ่งมีความจำเพาะ ซับซ้อนและมีอิทธิพลต่อสุขภาพหญิงตลอดช่วงชีวิต ต้องได้รับการสร้างเสริม และคุ้มครองอย่างสอดคล้องและเหมาะสม
          Section 6. A woman’s health in aspect of her gender and reproductive system which is of specific characteristics, complicate and influential to her total life span, shall be harmoniously and appropriately promoted and protected.
          สุขภาพของเด็ก คนพิการ คนสูงอายุ คนด้อยโอกาสในสังคมและกลุ่มคนต่างๆ ที่มีความจำเพาะในเรื่องสุขภาพต้องได้รับการสร้างเสริมและคุ้มครองอย่างสอดคล้องและเหมาะสมด้วย
          The health of a child, a disabled person, an elderly person, and a socially deprived person, as well as, groups of people with specific health characters, shall also be relevantly and appropriately promoted and protected.

          มาตรา 7 ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคล นั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใดๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการหรือกฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้
          Section 7. Personal health information shall be kept confidential. No person shall disclose it in such a manner as to cause damage to him or her, unless it is done according to his or her will, or is required by a specific law to do so. Provided that, in any case whatsoever, no person shall have the power or right under the law on official information or other laws to request for a document related to personal health information of any person other than himself or herself.

          มาตรา 8 ในการบริการสาธารณสุข บุคลากรด้านสาธารณสุขต้องแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการให้ผู้รับบริการทราบอย่างเพียงพอที่ผู้รับบริการจะใช้ประกอบการตัดสินใจในการรับหรือไม่รับบริการใด และในกรณีที่ผู้รับบริการปฏิเสธไม่รับบริการใด จะให้บริการนั้นมิได้
          Section 8. In providing health service, a public health personnel shall provide health information in connection with the service to the service receiver as adequately as to decide the proper choice of service. In case he or she refuses to receive service, no person shall provide service to him or her.
          ในกรณีที่เกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ผู้รับบริการเพราะเหตุที่ผู้รับบริการปกปิด ข้อเท็จจริงที่ตนรู้และควรบอกให้แจ้ง หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ผู้ให้บริการไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายหรืออันตรายนั้น เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้ให้บริการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
          In case of damage or danger occurring to the service receiver due to failure to disclose the facts he or she knows or ought to inform, or due to informing a false statement to the service provider, the service provider shall not be responsible to such damage or danger, except in case of gross negligence on his or her part.
          ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับกรณีดังต่อไปนี้
          The provisions of paragraph one shall not apply to the following cases:
          (1) ผู้รับบริการอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตและมีความจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการรีบด่วน
          (1) the service receiver is fatally ill and needs help urgently;
          (2) ผู้รับบริการไม่อยู่ในฐานะที่จะรับทราบข้อมูลได้ และไม่อาจแจ้งให้บุคคลซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้ปกครอง ผู้ปกครองดูแล ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลของผู้รับบริการ แล้วแต่กรณี รับทราบข้อมูลแทนในขณะนั้นได้
          (2) the service receiver is not in the state enabling him or her to acknowledge the information and it is not possible to inform any class of statutory heir under the Civil and Commercial Code, guardian, curator, or custodian of the service receiver, as the case may be, at that moment.

          มาตรา 9 ในกรณีที่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขประสงค์จะใช้ผู้รับบริการเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองในงานวิจัย ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า และต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้รับบริการก่อนจึงจะดำเนินการได้ ความยินยอมดังกล่าว ผู้รับบริการจะเพิกถอนเสียเมื่อใดก็ได้
          Section 9. In the case where a public health professional practitioner demands to use a service receiver as subject of experiment in a research, he or she shall inform the service receiver in advance and the consent must be permitted in writing before carrying out the experiment. Such consent may be revoked at any time.

          มาตรา 10 เมื่อมีกรณีที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนเกิดขึ้น หน่วยงานของรัฐที่มีข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ต้องเปิดเผยข้อมูลนั้นและวิธีป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพให้ประชาชนทราบและจัดหาข้อมูลให้โดยเร็ว
          Section 10. In the case where there exists an incident affecting health of the public, a State agency having information related to such incident shall expeditiously provide and disclose such information and the protection thereof to the public.
          การเปิดเผยข้อมูลตามวรรคหนึ่งต้องไม่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
          The disclosure under paragraph one shall not be done in such a manner as to infringe personal right of any specific person.

          มาตรา 11 บุคคลหรือคณะบุคคลมีสิทธิร้องขอให้มีการประเมินและมีสิทธิร่วมในกระบวนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพจากนโยบายสาธารณะ
          Section 11. An individual or a group of people has the right to request for an assessment and participating in the assessment of health impact resulting from a public policy.
          บุคคลหรือคณะบุคคลมีสิทธิได้รับรู้ข้อมูล คำชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการอนุญาตหรือการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมใดที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของตนหรือของชุมชนและแสดงความเห็นของตนในเรื่องดังกล่าว
          An individual or a group of people shall have the right to acquire information, explanation and underlying reasons from state agency prior to a permission or performance of a programme or activity which may affect his or her health or the health of a community, and shall have the right to express his or her opinion on such matter.

          มาตรา 12 บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้
          Section 12. A person shall have the right to make a living will in writing to refuse the public health service which is provided merely to prolong his/her terminal stage of life or to make a living will to refuse the service as to cease the severe suffering from illness.
          การดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
          The living will under paragraph one shall be carried out in accordance with the rules and procedure prescribed in the Ministerial Regulation.
          เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้ปฏิบัติตามเจตนาของบุคคลตามวรรคหนึ่งแล้วมิให้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและให้พ้นจากความรับผิดทั้งปวง
          An act done by public health personnel in compliance with the living will under paragraph one shall not be held an offence and shall not be liable to any responsibility whatsoever.


4. พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551
หมวด 2 สิทธิผู้ป่วย

          มาตรา 15  ผู้ป่วยย่อมมีสิทธิดังต่อไปนี้
          (1) ได้รับการบำบัดรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
          (2) ได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและการบำบัดรักษาไว้เป็นความลับ เว้นแต่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้เปิดเผยได้
          (3) ได้รับการคุ้มครองจากการวิจัยตามมาตรา 20
          (4) ได้รับการคุ้มครองในระบบประกันสุขภาพและประกันสังคม และระบบอื่น ๆ ของรัฐอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

          มาตรา 16  ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วยในประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ป่วย เว้นแต่
          (1) ในกรณีที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยหรือผู้อื่น
          (2) เพื่อความปลอดภัยของสาธารณชน
          (3) มีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย

          มาตรา 17  การบำบัดรักษาโดยการผูกมัดร่างกาย การกักบริเวณ หรือแยกผู้ป่วยจะกระทำไม่ได้ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยเอง บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่นโดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้บำบัดรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ

          มาตรา 18  การรักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า การกระทำต่อสมองหรือระบบประสาทหรือการบำบัดรักษาด้วยวิธีอื่นใด ที่อาจเป็นผลทำให้ร่างกายไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างถาวร ให้กระทำได้ในกรณีดังต่อไปนี้
          (1) กรณีผู้ป่วยให้ความยินยอมเป็นหนังสือเพื่อการบำบัดรักษานั้น โดยผู้ป่วยได้รับทราบเหตุผลความจำเป็น ความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรง หรืออาจเป็นผลทำให้ไม่สามารถแก้ไขให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพเดิม และประโยชน์ของการบำบัดรักษา
          (2) กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยหากมิได้บำบัดรักษาจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของผู้ป่วย  ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการสถานบำบัดรักษา
          ให้นำความในมาตรา 21 วรรคสาม มาใช้บังคับกับการให้ความยินยอมตาม (1) โดยอนุโลม

          มาตรา 19  การทำหมันผู้ป่วยจะกระทำไม่ได้ เว้นแต่ได้ปฏิบัติตามมาตรา 18 (1)

          มาตรา 20  การวิจัยใด ๆ ที่กระทำต่อผู้ป่วยจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ป่วย และต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการที่ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมการวิจัยในคนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้นำความในมาตรา ๒๑ วรรคสาม มาใช้บังคับกับการให้ความยินยอมโดยอนุโลม
          ความยินยอมตามวรรคหนึ่งผู้ป่วยจะเพิกถอนเสียเมื่อใดก็ได้


5. พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550

          มาตรา 20  คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ ดังต่อไปนี้
          (1) การบริการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยกระบวนการทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าอุปกรณ์ เครื่องช่วยความพิการ และสื่อส่งเสริมพัฒนาการ เพื่อปรับสภาพทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม พฤติกรรม สติปัญญา การเรียนรู้ หรือเสริมสร้างสมรรถภาพให้ดีขึ้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด
          (2) การศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติหรือแผนการศึกษาแห่งชาติตามความเหมาะสมในสถานศึกษาเฉพาะหรือในสถานศึกษาทั่วไป หรือการศึกษาทางเลือก หรือการศึกษานอกระบบ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาสำหรับคนพิการให้การสนับสนุนตามความเหมาะสม
          (3) การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ การให้บริการที่มีมาตรฐาน การคุ้มครองแรงงาน มาตรการเพื่อการมีงานทำ ตลอดจนได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ และบริการสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกเทคโนโลยีหรือความช่วยเหลืออื่นใด เพื่อการทำงานและประกอบอาชีพของคนพิการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานประกาศกำหนด
          (4) การยอมรับและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม เศรษฐกิจและการเมืองอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป ตลอดจนได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับคนพิการ
          (5) การช่วยเหลือให้เข้าถึงนโยบาย แผนงาน โครงการ กิจกรรม การพัฒนาและบริการอันเป็นสาธารณะ ผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต การช่วยเหลือทางกฎหมายและการจัดหาทนายความว่าต่างแก้ต่างคดี ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
          (6) ข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร บริการโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสื่อสารสำหรับคนพิการทุกประเภทตลอดจนบริการสื่อสาธารณะจากหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำหนดในกฎกระทรวง
          (7) บริการล่ามภาษามือตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
          (8) สิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทาง หรือเครื่องช่วยความพิการใด ๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการเดินทาง และการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ โดยได้รับการยกเว้นค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าเช่าเพิ่มเติมสำหรับสัตว์ เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเครื่องช่วยความพิการดังกล่าว
          (9) การจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ
          (10) การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การมีผู้ช่วยคนพิการ หรือการจัดให้มีสวัสดิการอื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ
          ผู้ช่วยคนพิการ ให้มีสิทธิได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าบริการ ค่าธรรมเนียมตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
          คนพิการที่ไม่มีผู้ดูแลคนพิการ มีสิทธิได้รับการจัดสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยและการเลี้ยงดูจากหน่วยงานของรัฐ ในกรณีที่มีสถานสงเคราะห์เอกชนจัดที่อยู่อาศัยและสวัสดิการให้แล้ว รัฐต้องจัดเงินอุดหนุนให้แก่สถานสงเคราะห์เอกชนนั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ
          ผู้ดูแลคนพิการมีสิทธิได้รับบริการให้คำปรึกษา แนะนำ ฝึกอบรมทักษะ การเลี้ยงดู การจัดการศึกษา การส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำ ตลอดจนความช่วยเหลืออื่นใด เพื่อให้พึ่งตนเองได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ
          คนพิการและผู้ดูแลคนพิการมีสิทธิได้รับการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษี ตามที่กฎหมายกำหนด
          องค์กรเอกชนที่จัดให้คนพิการได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรานี้ มีสิทธิได้รับการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษีเป็นร้อยละของจำนวนเงินค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด

6. ประมวลกฎหมายอาญา                             
          มาตรา 323  ผู้ใดล่วงรู้หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่นโดยเหตุที่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ โดยเหตุที่ประกอบอาชีพเป็นแพทย์ เภสัชกร คนจำหน่ายยา นางผดุงครรภ์ ผู้พยาบาล นักบวช หมอความ ทนายความ หรือผู้สอบบัญชีหรือโดยเหตุที่เป็นผู้ช่วยในการประกอบอาชีพนั้นแล้วเปิดเผย ความลับนั้นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ผู้รับการศึกษาอบรมในอาชีพดังกล่าวในวรรคแรก เปิดเผยความลับของผู้อื่น อันตนได้ล่วงรู้หรือได้มาในการศึกษาอบรมนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน