วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

(แก้ไขล่าสุด 3 สิงหาคม 2553)


ที่มาของภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 10 มาจากประมวลรัษฎากร มาตรา 80





(มาตรา 80 อยู่ใน หมวด 4 ภาษีมูลค่าเพิ่ม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 ซึ่งยกเลิกหมวด 4 ภาษีการค้า (เดิม) และยังคงข้อความนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 มาจนถึงปัจจุบัน และเริ่มใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม 2535 ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534 มาตรา 2(2))


ประมวลรัษฎากร มาตรา 80

มาตรา 80 ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 10.0 ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ เว้นแต่กรณีที่กำหนดไว้ในมาตรา 80/2
(1) การขายสินค้า
(2) การให้บริการ
(3) การนำเข้า
อัตราภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้ลดลงได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา แต่ต้องกำหนดอัตราภาษีให้เป็นอัตราเดียวกันสำหรับการขายสินค้า การให้บริการและการนำเข้าทุกกรณี

หากว่ากันตามประมวลรัษฎากรแล้ว อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 จะอยู่ที่ร้อยละ 10 หากจะลดอัตราภาษีนี้ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ปัจจุบัน (12 กรกฎาคม 2553) ยังอยู่ในช่วงที่พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 479) พ.ศ.2551 ซึ่งใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 ถึง 30 กันยายน 2553 ให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้
(1) ร้อยละ 6.3 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 30 กันยายน 2553
(2) ร้อยละ 9 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณีซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป

สรุป
1 ตุลาคม 2551 - 30 กันยายน 2553 เสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 6.3 + ภาษีท้องถิ่นร้อยละ 0.7 (มาจาก 1/9 * 6.3)เป็นร้อยละ 7
ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 9 + ภาษีท้องถิ่นร้อยละ 1 (มาจาก 1/9 * 9) เป็นร้อยละ 10


ทั้งนี้ขึ้นกับว่ารัฐบาลจะมีการขยายระยะเวลาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยแก้ไขหรือยกเลิกพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 479) พ.ศ.2551 หรือไม่ (แต่คิดว่าน่าจะทำอยู่แล้วเพื่อฐานเสียงของรัฐบาล)

เอกสารอ้างอิง
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 479) พ.ศ. 2551
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/A/096/7.PDF
---------------------------------------------------------

ในที่สุดรัฐบาลก็ใจดี ลดภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไปอีก 2 ปี


9. เรื่อง มาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง
กระทรวงการคลังเสนอว่า
1. เดิมจากปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา มีผลให้กำลังซื้อของประชาชนโดยรวมไม่สามารถขยายตัวได้เท่าที่ควร และเนื่องจากการขยายตัวด้านการใช้จ่ายของภาคเอกชนมีส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก กระทรวงการคลังจึงได้มีการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากอัตราร้อยละ 10 (รวมภาษีท้องถิ่น) ให้คงเหลือจัดเก็บในอัตราร้อยละ 7 (รวมภาษีท้องถิ่น) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551 และต่อมาได้มีการขยายเวลาการลดอัตราภาษีไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553 ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 479) พ.ศ. 2551

2. ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังอยู่ในระยะของการฟื้นตัวจึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องสนับสนุนให้มีการขยายตัวในด้านการบริโภค การใช้จ่ายและการลงทุนของภาคเอกชนต่อไปอีก ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวมมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง จึงเห็นสมควรขยายเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้การจัดเก็บในอัตราร้อยละ 7 (รวมภาษีท้องถิ่น) ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

สาระสำคัญของร่างกฎหมาย
1. ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากอัตราร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 6.3 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555
2. ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากอัตราร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

(มติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553)


******รอเพียงพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น******

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น