วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโฆษณาความรู้ความสามารถของตน สถานที่ประกอบธุรกิจของตนหรือสถานที่ตนปฏิบัติงาน ทำได้หรือไม่


ภก.ปรุฬห์ รุจนธำรงค์
         
          การโฆษณามีอิทธิพลในการเพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มจำนวนผู้มารับโฆษณาจากผู้ประกอบวิชาชีพ สถานที่ปะกอบธุรกิจ สถานที่ทำงานของผู้ประกอบวิชาชีพ การควบคุมเรื่องการโฆษณาความรู้ความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพ สถานที่ประกอบธุรกิจของผู้ประกอบวิชาชีพ ตลอดจนสถานที่ผู้ประกอบวิชาชีพได้ปฏิบัติงาน หากเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพมักจะมีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องป้องกันการแย่งกันประกอบวิชาชีพโดยป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีทุนมากกว่าใช้การโฆษณาเพื่อเรียกผู้รับบริการไปใช้บริการของตนจนทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพอื่นไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้ เพื่อให้เกิดการกระจายตัวไปรับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพรายอื่น ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และป้องกันการทำลายระบบวิชาชีพในภาพรวม เรื่องการป้องกันโฆษณาโอ้อวดในข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณวิชาชีพและตามกฎหมายอื่น เช่น พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคทั่วไป ไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความไม่เป็นธรรมจากโฆษณาหรือเข้าใจผิดในสาระสำคัญของบริการ
          ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพจะโฆษณาได้หรือไม่ โฆษณาได้มากน้อยเพียงใด พิจารณาจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องและคดีจรรยาบรรณที่เกิดขึ้นจริง ดังต่อไปนี้

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1. กรณีการประกอบวิชาชีพในสถานประกอบการด้านยา  พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ไม่มีเรื่องการโฆษณาสถานประกอบการด้านยา (เช่น ร้านขายยา) กำหนดไว้โดยเฉพาะต้องมีหลักเกณฑ์ในการโฆษณาอย่างไร จึงต้องกลับไปใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 22 และมาตรา 23 ในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการโฆษณา ซึ่งเนื้อหาและวิธีการโฆษณามีดังนี้
          1.1 เนื้อหาการโฆษณา การโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม  ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อความดังกล่าวนั้นจะเป็นข้อความที่เกี่ยวกับแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าหรือบริการ ตลอดจนการส่งมอบ การจัดหา หรือการใช้สินค้าหรือบริการ
          ข้อความดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือเป็นข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม
          (1) ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง ยกเว้นข้อความที่ใช้ในการโฆษณาที่บุคคลทั่วไปสามารถรู้ได้ว่าเป็นข้อความที่ไม่อาจเป็นความจริงได้โดยแน่แท้
          (2) ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะกระทำโดยใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริง หรือไม่ก็ตาม
          (3) ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมายหรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
          (4) ข้อความที่จะทำให้เกิดความแตกแยกหรือเสื่อมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน
          (5) ข้อความอย่างอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- ข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่อิงกับพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (รายละเอียดโปรดดูกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)
                   - เรื่องโฆษณาขายยาโดยวิธีแถมพกหรือออกสลากรางวัล ไม่สามารถกระทำได้ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มาตรา 90 (แม้ว่ากฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2526) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 จะอนุญาตเรื่องการโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ระบุหรือประกาศว่าผู้ประกอบธุรกิจจัดให้มีการแถมพกหรือรางวัลด้วยการเสี่ยงโชคได้ก็ตาม)
          1.2 วิธีการโฆษณา การโฆษณาจะต้องไม่กระทำด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกายหรือจิตใจ หรืออันอาจก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้บริโภค  ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

2. กรณีการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 38 มีมาตรการควบคุมผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการ (ผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 25(1) อาจเป็นได้ทั้งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ แต่บุคคลเช่นว่านั้นจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินการตามประเภทใด หรือสถานพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ใดให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง) โดยห้ามมิให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการโฆษณาหรือประกาศหรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ ซึ่งชื่อ ที่ตั้งหรือกิจการของสถานพยาบาล หรือคุณวุฒิ หรือความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลเพื่อชักชวนให้มีผู้มาขอรับ บริการจากสถานพยาบาลของตน โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริง หรือน่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล
          จะเห็นว่าผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมไม่สามารถเป็นผู้ดำเนินการในสถานพยาบาลรูปแบบใดได้เลย จึงไม่เป็นผู้กระทำความผิดกรณีฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 38 แต่อาจถือว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นได้
          นอกจากนี้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 11 (.. 2546) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล ให้นิยาม การโฆษณาสถานพยาบาล หมายความว่า การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาลทางวิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เคเบิลทีวี วิทยุกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง การฉายภาพหรือภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์ทุกชนิด เช่น แผ่นพับ ใบปลิว หนังสือ นิตยสาร วารสาร และสื่ออื่น ๆ รวมถึงแผ่นป้ายโฆษณา วัสดุอื่น ๆ ที่มีข้อความโฆษณาให้ประชาชนเห็นได้ และให้หมายรวมถึงการกระทำไม่ว่าโดยวิธีการใด ๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบ ข้อความ ภาพ เครื่องหมาย หรือรวมถึงการกระทำอย่างใด ๆ ที่ทำให้บุคคลโดยทั่วไปเข้าใจความหมายเพื่อประโยชน์ของสถานพยาบาล” และกำหนดโฆษณาที่สามารถกระทำได้และไม่สามารถกระทำได้ดังต่อไปนี้
            2.1 การโฆษณาสถานพยาบาลที่สามารถกระทำได้ ให้กระทำได้ดังนี้
          - การโฆษณาชื่อและที่ตั้ง ถ้ามีการแสดงภาพประกอบ ให้แสดงได้เฉพาะสถานที่ตั้งอาคารและอาคารสถานพยาบาล
          - การโฆษณาคุณวุฒิ หรือความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพนั้น ๆ
          - การโฆษณาบริการทางการแพทย์ ให้แจ้งเฉพาะบริการที่มีในสถานพยาบาล วัน เวลา ที่ให้บริการตามที่ได้รับอนุญาต
          - การโฆษณาแจ้งอัตราค่ารักษาพยาบาล หรือค่าบริการที่มีในสถานพยาบาล
          - การโฆษณาอัตราค่ารักษาพยาบาลหรือค่าบริการที่มีเงื่อนไขจะต้องแจ้งรายละเอียดของเงื่อนไขไว้ในการโฆษณานั้น และจะต้องแจ้งเงื่อนไขให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าก่อนให้บริการ จะต้องกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ใช้อัตราค่ารักษาพยาบาลหรือ ค่าบริการในเรื่องนั้น ๆ ไว้ให้ชัดเจน
          - การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการทางการแพทย์และเผยแพร่ผลงานวิจัย และให้ระบุคำเตือนไว้ว่ามีความเสี่ยงของการไม่ได้ผลหรืออาจเกิดอันตรายหรือเกิดผลข้างเคียงกับผู้ใช้บริการ โดยที่ขนาดตัวอักษรต้องเท่ากับตัวอักษรที่โฆษณาและความเร็วของเสียงต้องไม่เร็วไปกว่าเสียงปกติ
          - การโฆษณาแจ้งข่าวสาร เช่น แจ้งทำลายเวชระเบียน แจ้งย้ายสถานที่ แจ้งกิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ ให้กระทำได้โดยเฉพาะกิจกรรมและวันเวลาที่จัดกิจกรรมนั้น
            2.2 โฆษณาสถานพยาบาลที่ไม่สามารถกระทำได้ มีดังต่อไปนี้
          - การใช้ข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่ไม่มีมูลความจริงทั้งหมด หรือเพียงบางส่วน หรือมีลักษณะเป็นการหลอกลวงหรือปกปิดความจริงหรือทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นจริง
          - การใช้ข้อความที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าในสถานพยาบาลมีผู้ประกอบวิชาชีพ (บุคลากร) เครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ทางการแพทย์แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่มีให้บริการในสถานพยาบาล
          - การใช้สถาบัน หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคล ที่มิได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานของรัฐเพื่อรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลของตน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
          - การโฆษณาแจ้งบริการโรคที่ไม่มีอยู่ในสาขาที่ผู้ประกอบวิชาชีพมีหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตร
          - การอ้างอิงรายงานวิชาการ ผลงานวิจัย สถิติ หรือยืนยันหรือรับรองข้อเท็จจริงอันใดอันหนึ่งในการโฆษณา เพื่อแสดงหรือเปรียบเทียบความสามารถในการให้บริการหรือการรักษาพยาบาลโดย ข้อมูลที่อ้างอิงนั้นมิใช่ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต
          - การใช้ข้อความหรือรูปภาพ โอ้อวดเกินจริงหรือข้อความที่กล่าวอ้างหรือบ่งบอกว่าของตนดีกว่า, เหนือกว่า, ดีที่สุด, รายแรก, แห่งแรก รับรองผล 100% หรือการเปรียบเทียบหรือการใช้ข้อความอื่นใดที่มีความหมายในทำนองเดียวกันมา ใช้ประกอบข้อความโฆษณาด้วยความประสงค์ที่จะทำให้ผู้รับบริการหรือผู้บริโภค เข้าใจว่าการบริการของสถานพยาบาลแห่งนั้นมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีกว่า เหนือกว่า หรือสูงกว่าสถานพยาบาลอื่นหรือเกิดความคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ดีกว่า หรือได้ผลสูงสุด
          - การโฆษณากิจการสถานพยาบาลหรือการโฆษณาความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในการรักษาพยาบาลคุณภาพ หรือประสิทธิภาพประสิทธิผลของผู้ประกอบวิชาชีพหรือสรรพคุณของเครื่องมือเครื่องใช้ของสถานพยาบาล หรือกรรมวิธีการรักษา หรือโรคที่ให้การรักษาหรือเปรียบเทียบผลก่อนและหลังการรักษาไปในทำนองให้เข้าใจผิด โดยไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการที่เป็นมาตรฐานวิชาชีพหรือทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังในสรรพคุณเกินความจริง
          - การใช้ชื่อสถานพยาบาล หรือข้อความที่ทำให้ผู้รับบริการหรือประชาชน อ่าน ฟัง ดูแล้วเข้าใจผิดหรือหลงเชื่อว่าสถานพยาบาลนั้น มีการประกอบกิจการดังที่โฆษณาซึ่งไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ
          - การโฆษณาด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกาย หรือจิตใจหรือก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้บริการหรือประชาชนทั่วไป
          - การใช้ภาพหรือเสียงที่ไม่เหมาะสมสร้างความหวาดกลัว หรือมีลักษณะเป็นการส่อไปในทางลามกอนาจาร หรือมีลักษณะเป็นการกระตุ้น หรือยั่วยุทางกามารมณ์
          - การใช้ภาพหรือเสียงโดยไม่สุภาพหรือโดยการร้องรำทำเพลงหรือแสดงอาการทุกข์ทรมานของผู้ป่วย
          - การโฆษณาที่มีลักษณะที่เป็นการให้ร้าย เสียดสี หรือทับถมสถานพยาบาลหรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น
          - การโฆษณาที่มีลักษณะอันเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
          - การโฆษณาที่รวมอยู่กับข้อความถวายพระพร หรือข้อความอย่างอื่นที่อ้างอิงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เว้นแต่ชื่อของสถานพยาบาล หรือผู้ประพันธ์บทความดังกล่าว
          - การโฆษณาการให้บริการ ฟรี โดยไม่เรียกเก็บค่าใช่จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากผู้อนุญาต ทั้งนี้ จะต้องกำหนดวัน เวลา และสถานที่ให้บริการและจะต้องแสดงรายละเอียดว่าจะให้บริการฟรีในเรื่องใดให้ชัดเจน
          - การโฆษณาที่จัดให้มีการแถมพก แลกเปลี่ยน ให้สิทธิประโยชน์ รางวัล หรือการเสี่ยงโชค จากการเลือกรับบริการทางการแพทย์อย่างใดอย่างหนึ่งจากสถานพยาบาลนั้น เว้นแต่การให้สิทธิประโยชน์เหล่านั้น ผู้รับบริการเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรงและมาตรฐานการรับบริการทางการแพทย์จะ ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทั่วไปของสถานพยาบาล การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จะต้องระบุเงื่อนไขและรายละเอียดของสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้ชัดเจนและจะต้องกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้สิทธิประโยชน์นั้น ๆ
          - การให้ส่วนลดค่าบริการหรือค่ารักษาพยาบาล เว้นแต่เป็นการให้ส่วนลดเพื่อการอนุเคราะห์บุคคลด้อยโอกาสหรือตามแผนงานของกระทรวงสาธารณสุขหรือที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง หรือ เป็นการให้ส่วนลดต่อสมาชิกกลุ่มบุคคลหรือสถาบันหรือองค์กรโดยเป็นการประกาศหรือแจ้งให้ทราบเฉพาะกลุ่มนั้น ๆ เท่านั้น การให้ส่วนลดจะต้องกำหนดประเภทของบริการให้ชัดเจน และกำหนดวันเริ่มต้นและสิ้นสุดของระยะเวลาที่ให้ส่วนลดให้ชัดเจน ทั้งนี้ การให้ส่วนลดต้องไม่เกิน 1 ปี กรณีการให้ส่วนลดที่มิได้เกี่ยวกับ การให้บริการทางการแพทย์ หรือค่ารักษาพยาบาลและมิได้เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล หากผู้รับบริการหรือผู้บริโภคเป็นผู้รับประโยชน์โดยตรงจะกระทำก็ได้
         
3. กรณีการควบคุมผู้ประกอบวิชาชีพโดยกฎหมายวิชาชีพ หากเป็นผู้ประกอบด้านสุขภาพ จะมีกฎหมายวิชาชีพเฉพาะของตน เช่น ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือแพทย์จะถูกควบคุมโดยมีพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ซึ่งมีข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 (และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือเภสัชกรถูกควบคุมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 ซึ่งมีข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2538 (และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมถูกควบคุมโดยพระราชบัญญัติวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 ซึ่งมีข้อบังคับทันตแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทีนตกรรม พ.ศ.2538 ซึ่งข้อบังคับสภาวิชาชีพนี้มักจะมีเนื้อหาในส่วนการควบคุมเรื่องการโฆษณาที่คล้ายคลึงกัน เช่น ผู้ประกอบวิชาชีพต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบวิชาชีพ ความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพของตน หรือหากอนุญาตให้มีการโฆษณาได้จะต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้นในส่วนของการพิจารณาคดีจรรยาบรรณวิชาชีพ ถ้าหากเป็นการโฆษณาสถานประกอบการ เช่น ร้านขายยา สถานพยาบาล หากผู้รับอนุญาตไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้วจะไม่สามารถถูกพิจารณาคดีจรรยาบรรณวิชาชีพได้เลย

คดีจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพ
            คดีจรรยาบรรณวิชาชีพในที่นี้ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบวิชาชีพถูกตัดสินว่ากระทำผิดข้อบังคับสภาวิชาชีพในเรื่องการโฆษณาของตน และไม่พอใจในผลการตัดสินจึงได้นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลปกครอง ตัวอย่างเช่น

            แพทย์ ลงรูปภาพเปรียบเทียบดวงตาก่อนและหลังทำศัลยกรรม พร้อมชื่อ ของสถานพยาบาล ในหนังสือแฟชั่นรีวิว ฉบับที่ 234 เดือนตุลาคม 2545 ซึ่งลักษณะของรูปภาพทำให้เข้าใจว่าหากทำศัลยกรรม กับสถานพยาบาล ช. คลีนิคแล้ว จะทำให้มีดวงตาสวยงามเช่นที่ปรากฏในรูปภาพ โดยมิได้มีการระบุข้อความเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ทั้งที่รูปภาพดังกล่าวนั้นไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า เป็นรูปภาพของบุคคลเดียวกัน และการทำศัลยกรรมก็ไม่อาจรับรองผลได้ว่าผู้ทำศัลยกรรมทุกคนจะมีดวงตาสวยงาม ดังรูปภาพ กรณีจึงถือว่าเป็นการโฆษณาหรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาสถานพยาบาลโดยโอ้อวดกิจกรรมของสถานพยาบาลทำให้ประชาชน เกิดความคาดหวังในสรรพคุณเกินความจริง จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2526 เรื่อง การปฏิบัติตนเกี่ยวกับสถานพยาบาล โดยเฉพาะข้อ 13 “ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ทำการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสื่อมวลชน ถ้าแสดงตนว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมสามารถแจ้งสถานที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ แต่ต้องไม่เป็นการสื่อไปในทำนองโฆษณาโอ้อวดเกินความเป็นจริง หลอกลวง หรือทำให้ผู้ป่วยหลงเชื่อมาใช้บริการและในการแจ้งสถานที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ปรากฏหมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัวในที่เดียวกัน”
          กรณีนี้แพทยสภาลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ศาลปกครองเห็นว่าเป็นการพิจารณาเรื่องร้องเรียนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
          (ที่มา: คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.112/2553 วันที่ 6 พฤษภาคม 2553) 

          ทันตแพทย์ให้สัมภาษณ์แก่ผู้อื่นโดยที่ทราบว่าผู้นั้นเป็นนักข่าวเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพทันตกรรมของตน การขอสัมภาษณ์ดังกล่าวย่อมคาดหมายได้ว่าผู้ขอสัมภาษณ์ประสงค์ที่จะนำข้อมูลที่ให้สัมภาษณ์ไปใช้เพื่อการเผยแพร่ ต่อมานักข่าวนั้นได้นำข้อมูลที่ได้จากสัมภาษณ์ไปเผยแพร่ในรูปบทความทางหนังสือพิมพ์โดยปรากฏรูปภาพของทันแพทย์พร้อมข้อความบอกชื่อนามสกุลใต้รูปภาพ และมีคำสัมภาษณ์ที่มีข้อความในลักษณะของการโฆษณาความรู้ความสามารถของทันตแพทย์เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดที่ได้ทราบข้อความดังกล่าวเกิดความสนใจและยังเป็นการจูงใจเพื่อให้มาใช้บริการของตน อีกทั้งยังปรากฏรูปภาพของทันตแพทย์กำลังทำฟันแก่ผู้ป่วยและพนักงานนวดกำลัง นวด พร้อมทีข้อความว่านวดไปทำฟันไป จึงเป็นการแสดงให้ปรากฏเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงการให้สัมภาษณ์ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการแสดงเจตนาและเป็นการยินยอมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลการประกอบวิชาชีพทันตกรรมของผู้ฟ้องคดีให้ปรากฏแก่ประชาชนหรือสาธารณชนทางสื่อมวลชนอย่างชัดเจน อันเป็นการประพฤติผิดข้อบังคับทันตแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2538 ข้อ 22 ซึ่งมีข้อความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมต้องไม่โฆษณา ใช้ จ้าง หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบวิชาชีพทันตกรรม ความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมของตน นอกจากนี้ทันตแพทย์ยังมีเว็บไซต์ www.bangkokdentalspa.com ที่เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในการประกอบวิชาชีพของตน แสดงให้เห็นเจตนาได้ว่า ผู้ฟ้องคดีมีความประสงค์หรือเจตนาที่จะเผยแพร่การประกอบวิชาชีพทันตกรรมของ ตนให้เป็นที่แพร่หลาย ซึ่งเกินไปกว่าที่กำหนดไว้ในข้อ 25 ของข้อบังคับซึ่งมีข้อความว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมอาจแสดงข้อความเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพทันตกรรมของตนที่สำนักงานได้เพียงข้อความเฉพาะเรื่องต่อไปนี้ คือ (1) ชื่อ นามสกุล และอาจมีคำประกอบชื่อได้เพียงคำว่าทันตแพทย์ หรือทันตแพทย์หญิง อภิไธย ตำแหน่งทางวิชาการ ฐานันดรศักดิ์ ยศ และบรรดาศักดิ์ เท่านั้น (2) ชื่อปริญญา ประกาศนียบัตร วุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติ หรือคุณวุฒิอย่างอื่น ซึ่งตนได้รับมาโดยวิธีการถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของทันตแพทยสภาหรือสถาบันนั้นๆ ที่ทันตแพทยสภารับรอง (3) สาขาของวิชาชีพเวชกรรม (4) เวลาทำการ” อันเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรมตามข้อ 28 ซึ่งมีข้อความว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมี มิให้การประกอบวิชาชีพทันตกรรมของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นไปในทำนองโฆษณาคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถของตนหรือของผู้อื่น”  
          กรณีนี้ทันตแพทยสภาลงโทษภาคทัณฑ์ ศาลปกครองเห็นว่าดำเนินการเกี่ยวกับการสอบสวนและใช้ดุลพินิจในการลงโทษแก่ผู้ฟ้องคดีให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับทันตแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2538 แล้ว
          แม้ว่าทันตแพทย์จะอ้างว่าการให้ข้อมูลโดยการให้บริการของผู้ฟ้องคดีเป็นข้อมูลความรู้ทั่วไป และถือเป็นการใช้เสรีภาพในทางวิชาการที่ได้รับการรับรองตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 นั้น แต่เป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลปกครองชั้นต้น และไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือปัญหาเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ จึงเป็นกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดไม่อาจรับไว้วินิจฉัยได้ตาม ข้อ 101 วรรคสอง แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ฯ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543
          (ที่มา: คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.328/2553 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553) 

           สัตวแพทย์ แม้ว่าจะไม่ถือว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ (สำหรับมนุษย์) แต่มีข้อบังคับจรรยาบรรณวิชาชีพที่คล้ายคลึงกัน กรณีนี้เป็นเรื่องสัตวแพทย์ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ของตนในวารสาร พ.  ฉบับวันที่ 8 สิงหาคม 2548  โดยไม่ได้ดำเนินการให้นักข่าวของวารสารดังกล่าวนำบทความมา ตรวจสอบก่อนว่าจะขัดกับการประกอบวิชาชีพของตนหรือไม่ก่อนนำลงตีพิมพ์เพื่อ เผยแพร่ต่อสาธารณชน ประกอบกับการให้นักข่าวถ่ายภาพเพื่อประกอบบทความขณะที่ผู้ฟ้องคดีสวมเสื้อสัตวแพทย์ที่มีเครื่องหมายของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อติดอยู่ แม้จะมีขนาดเล็กที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้ แต่เมื่ออ่านประกอบบทความแล้วย่อมทราบได้ว่าเป็นของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ อันอาจนำไปใช้ในทางโฆษณาการประกอบวิชาชีพของตน จึงเป็นการไม่ระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมีเพื่อป้องกันมิให้การประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นไปในทำนองเผยแพร่ความรู้ความสามารถของตน แม้สัตวแพทย์จะอ้างว่าขณะนั้นอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม ก็อยู่ในวิสัยที่จะถอดเพียงเสื้อสัตวแพทย์ที่มีตราสัญลักษณ์ของโรงพยาบาลสัตว์ได้ แต่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมี จึงเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับสัตวแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. 2546 ข้อ 24 ซึ่งมีข้อความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ต้องระมัดระวังตามวิสัยที่พึงมี มิให้การประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นไปในทำนองโฆษณา คุณวุฒิ ความรู้ความสามารถของตนหรือของผู้อื่น
            กรณีนี้สัตวแพทยสภาลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ศาลปกครองเห็นว่าเป็นโทษที่เบาที่สุดตามพ.ร.บ. วิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. 2545 มาตรา 45 จึงชอบด้วยกฎหมาย
          (ที่มา: คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.265/2554 วันที่ 19 กรกฎาคม 2554) 

            จากคดีที่ขึ้นศาลปกครอง จะเห็นว่าแพทยสภา ทันตแพทยสภา สัตวแพทยสภา ได้พิจารณาคดีจรรยาบรรณวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพหากมีการโฆษณา การประกอบวิชาชีพของตนแพร่ออกไปในสื่อมวลชนเป็นไปในทำนองโฆษณาคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถของตนหรือของผู้อื่น หรือมีการแสดงสถานที่ประกอบการหรือสถานที่ทำงานของตน ว่าเป็นการฝ่าฝืนจรรยาบรรณวิชาชีพ แต่ลงโทษเพียงว่ากล่าวตักเตือนหรือเต็มที่เพียงภาคทัณฑ์เท่านั้น


2 ความคิดเห็น:

  1. สกรีนเสื้อยืด ราคาถูก เริ่มต้น 199 บ.
    สั่งสกรีนเสื้อยืดไม่มีขั้นต่ำ 1 ตัวเราก็ทำ
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม สกรีนเสื้อยืด

    ตอบลบ
  2. After reading throungh your context ,This has to be one of the best  blog I have  come across in a while.
    The delivery is almost similar to the the street value of vyvanse  
    we offer our clients. I gotta bookmark this blog to come back for more amazing content

    ตอบลบ