ปรุฬห์ รุจนธำรงค์
ส่วนที่ 8 ความรับผิดทางกฎหมาย
กรณีผู้ละเมิดกฎหมายในด้านความรับผิดทางแพ่ง พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510
และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ไม่ได้กำหนดไว้โดยเฉพาะเช่นเดียวกับ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย
พ.ศ.2535, พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 (แต่ในส่วนพ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ในอนาคตจะมีมาตรการนี้)
ความรับผิดทางกฎหมายของ พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จึงมีเพียงความรับผิดทางอาญา
และมาตรการทางปกครอง (เช่น การปรับรายวัน การพักใช้ใบอนุญาต การเพิกถอนใบอนุญาต) ดูหมวด
14 บทกำหนดโทษ
ในส่วนบทบัญญัติที่มีโทษทางอาญาจะต้องตีความโดยเคร่งครัด
กล่าวคือ บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้
และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 2
จึงต้องพิจารณาเนื้อหาของบทลงโทษให้ดีว่าใช้กับใคร เช่น ใช้กับ “ผู้ใด”
“ผู้รับอนุญาต” (ต้องสังเกตอีกว่าเป็นผู้รับอนุญาตประเภทใดด้วย) “ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ”
อีกทั้งการรับโทษอาญาตามกฎหมายนี้ ใช้เฉพาะกับการกระทำโดยเจตนาไม่ใช้กับการกระทำโดยประมาทด้วย
หมายความว่า ถ้ากระทำด้วยความประมาทก็ไม่สามารถลงโทษได้
ซึ่งเป็นผลมาจากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคแรกซึ่งบัญญัติว่า
“บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา
เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท
ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท
หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา”.
และเนื่องจาก ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 และมาตรา 59
อยู่ในภาค 1 ของประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น จึงให้ใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย
เว้นแต่กฎหมายนั้น ๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17
บางกรณีใน พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 แม้ไม่ได้มีเจตนาก็เป็นความผิดได้
เช่น กรณีขาย นำเข้า โดยไม่รู้ว่าเป็นยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสื่อมคุณภาพ
ยาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิก ยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียนตำรับยา ก็มีบทลงโทษ
ฐานความผิด
|
ตัวอย่าง
|
บทลงโทษ
|
กรณีที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
|
||
ผู้ใดผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 12
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5
ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา 101
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดผลิตยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 46
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 111
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต
ตามมาตรา 19(1)
|
การผลิตยานอกพื้นที่โรงงานยาที่ขออนุญาตไว้
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต
ตามมาตรา 53
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 3,000 บาท ตามมาตรา 112
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันไม่ตรงตามประเภทใบอนุญาต
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดย้ายสถานที่ผลิตยา
สถานที่เก็บยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 30
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดย้ายสถานที่ผลิตยา
สถานที่เก็บยาแผนโบราณ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 62
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท ตามมาตรา 112
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันไม่มีเภสัชกรอย่างน้อย
2 คน (หรือมีจำนวนไม่ถึงตามที่กำหนดในกฎกระทรวง)
เป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ และไม่มีเภสัชกรอย่างน้อย 1 คน
ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 20
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดผลิตยาภายหลังที่ใบอนุญาตสิ้นอายุแล้วโดยมิได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
|
ระวางโทษปรับเป็นรายวัน
วันละ
100 บาท ตลอดเวลาที่ใบอนุญาตขาดอายุ ตามมาตรา 104
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
25
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการผลิตยาแผนปัจจุบัน พ.ศ. 2546,
กฎกระทรวงว่าด้วยการรับรองรุ่นการผลิตยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาชีววัตถุ พ.ศ. 2553
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ตามมาตรา 105
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
57
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิต
ขาย นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณ พ.ศ. 2555
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท ตามมาตรา 114
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณใช้กรรมวิธีการผลิตที่ไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง
ตามมาตรา 54
ทวิ
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง
ฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
5,000
บาท ตามมาตรา 113 ทวิ
|
ไม่ขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน
15 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญของใบอนุญาต
กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 28 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 60
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ไม่แสดงใบอนุญาตของตนและผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ติดไว้ ณ ที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 29 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 61
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตไม่แจ้งเปลี่ยนตัวผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการให้ผู้อนุญาตทราบภายใน
7 วัน นับแต่วันที่ไม่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน
ตามมาตรา 33 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 63
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่แจ้งการเลิกกิจการเป็นหนังสือภายใน
15 วันนับแต่วันเลิกกิจการให้ผู้อนุญาตทราบ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา
35 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 65
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณแก้ไขรายการทะเบียนตับยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามมาตรา 81
|
การแก้ขนาดบรรจุ
ฉลาก เอกสารกำกับยา โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
ไม่ขอใบแทนใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาภายใน
15 วันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลาย ตามมาตรา 87
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันในสถานที่ผลิตยาในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
ตามมาตรา 31
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 107
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันผู้ใดไม่แจ้งการจัดให้มีผู้ปฏิบัติการแทนผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา
33 ทวิ
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
500 บาท ตามมาตรา 107 ทวิ
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณผู้ใดไม่แจ้งการจัดให้มีผู้ปฏิบัติการแทนผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา
63 ทวิ
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
500 บาท ตามมาตรา 114 ทวิ
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ผลิตยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 38
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 109
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ตามมาตรา 68
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
500 –
2,000 บาท ตามมาตรา 115
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่ผลิตยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 45
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 110
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ตามมาตรา 71
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
500 –
2,500 บาท ตามมาตรา 116
|
|
ผู้ใดผลิตยาปลอม ตามมาตรา 72(1)
|
หากยาปลอมเป็นยาที่ทำเทียมทั้งหมดหรือแต่บางส่วนว่าเป็นยาแท้
ตาม มาตรา 73(1) หรือเป็นยาที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานถึงขนาดที่ปริมาณหรือความแรงของสารออกฤทธิ์ขาดหรือเกินกว่าร้อยละยี่สิบจากเกณฑ์ต่ำสุดหรือสูงสุด
ซึ่งกำหนดไว้ในตำรับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ ตามมาตรา 73(4) ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึงตลอดชีวิต
และปรับตั้งแต่ 10,000 – 50,000 บาท ตามมาตรา 117 วรรคแรก
หากยาปลอมมีลักษณะที่แสดงชื่อว่าเป็นยาอื่น
แสดงเดือนปีที่ยาสิ้นอายุซึ่งไม่ใช่ความจริง ตาม มาตรา 73(2) แสดงชื่อหรือเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตหรือที่ตั้งสถานที่ผลิตยาซึ่งไม่ใช่ความจริง
ตาม มาตรา 73(3) แสดงว่าเป็นยาตามตำรับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ซึ่งไม่ใช่ความจริง
ตาม มาตรา 73(4) ถ้าผู้ผลิตสามารถพิสูจน์ได้ว่ายานั้นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้ยาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
5 ปี และปรับไม่เกิน 20,000
บาท ตามมาตรา 117 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดผลิตยาผิดมาตรฐาน ตามมาตรา 72(2)
|
ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 และปรับตั้งแต่ 4,000 – 20,000 บาท ตามมาตรา 118 วรรคแรก
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดผลิตยาที่รัฐมนตรีสั่งเพิกถอนทะเบียนตำรับยา
ตามมาตรา 72(6)
|
ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 และปรับตั้งแต่ 4,000 – 20,000 บาท ตามมาตรา 118 วรรคแรก
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดผลิตยาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิกอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา
72(5)
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 118 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตามมาตรา 79
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 123
|
|
ผู้ใดผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
อันเป็นกี่ฝ่าฝืนมาตรา 72(4)
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา
122
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตไม่ส่งรายงานประจำปี
ตามมาตรา 85
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท
และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 100 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 123 ทวิ
|
|
ผู้รับอนุญาตผลิตส่งรายงานประจำปี
ตามมาตรา 85 อันเป็นเท็จ
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 123 ตรี
|
|
ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 91
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 125
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดดำเนินการในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
ตามมาตรา 95
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตามมาตรา 125 ทวิ
|
|
กรณีที่เกี่ยวข้องกับการขาย
|
||
ผู้ใดขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 12
|
ร้านชำ
หรือร้านสะดวกซื้อ หรือผู้ขายยาตามสื่อต่าง ๆ
โดยยาแผนปัจจุบันที่ขายนั้นไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา 101
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
ผู้ใดขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 46
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 111
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต
ตามมาตรา 19(1)
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน
(ทุกประเภทใบอนุญาต)
นำยาแผนปัจจุบันที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้านของตนหรือนำยาจากสถานประกอบการของตนแจกให้กับประชาชนทั่วไป
นอกบริเวณสถานประกอบการที่ขออนุญาต
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณนอกสถานที่ที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต
ตามมาตรา 53
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 3,000 บาท
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันที่เป็นยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษให้กับผู้รับใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ
(ตามมาตรา 15(4)) ตามมาตรา 19(3)
|
ผู้รับอนุญาตขายยาปฏิชีวนะ
(เช่น amoxicillin, ยากลุ่ม NSAIDs ชนิดรับประทาน)
หรือขายยาควบคุมพิเศษ (เช่น
ยาสเตอรอยด์ชนิดรับประทาน) ให้กับร้านขายยา ข.ย.2
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
ผู้รับอนุญาตย้ายสถานที่ขายยาแผนปัจจุบัน
สถานที่เก็บยา โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 30
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดย้ายสถานที่ขายยา
สถานที่เก็บยาแผนโบราณ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 62
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท ตามมาตรา 112
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน
(ร้าน ข.ย.1) ไม่มีเภสัชกรอย่างน้อย 1 คน
ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา
21
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตขายส่งยาแผนปัจจุบัน
ไม่มีเภสัชกรอย่างน้อย 1
คน ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 21 ทวิ
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ
ไม่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 22
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จสำหรับสัตว์
ไม่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 23
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณไม่มีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ
ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 55
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ
100 บาท จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 113
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันทุกประเภทผู้ใดขายยาภายหลังที่ใบอนุญาตสิ้นอายุแล้วโดยมิได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
|
ระวางโทษปรับเป็นรายวัน
วันละ
100 บาท ตลอดเวลาที่ใบอนุญาตขาดอายุ ตามมาตรา 104
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน
ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน
พ.ศ. 2556
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ตามมาตรา 105
|
ผู้รับอนุญาตขายส่งยาแผนปัจจุบันผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
26 ทวิ
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ตามมาตรา 105
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
58
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิต
ขาย นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณ พ.ศ. 2555
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท ตามมาตรา 114
|
ไม่ขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน
15 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญของใบอนุญาต
กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 28 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 60
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ไม่แสดงใบอนุญาตของตนและผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ติดไว้ ณ ที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 29 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 61
|
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตไม่แจ้งเปลี่ยนตัวผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการให้ผู้อนุญาตทราบภายใน
7 วัน นับแต่วันที่ไม่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน
ตามมาตรา 33 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 63
|
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่แจ้งการเลิกกิจการเป็นหนังสือภายใน
15 วันนับแต่วันเลิกกิจการให้ผู้อนุญาตทราบ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา
35 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 65
|
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
ตามมาตรา 32
|
ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 107
|
|
ผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับการขายยาแผนปัจจุบันผู้ใดไม่แจ้งการจัดให้มีผู้ปฏิบัติการแทนผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา
33 ทวิ
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
500 บาท ตามมาตรา 107 ทวิ
|
|
ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณผู้ใดไม่แจ้งการจัดให้มีผู้ปฏิบัติการแทนผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา
63 ทวิ
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน500 บาท
ตามมาตรา 114 ทวิ
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่เกี่ยวกับการขายยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 39 มาตรา 40 มาตรา 40 ทวิ มาตรา 41 มาตรา 42
มาตรา 43 แล้วแต่กรณี
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 109
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ขายยาแผนโบราณ ตามมาตรา 69
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
500 –
2,000 บาท ตามมาตรา 115
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบันทุกประเภท ตามมาตรา
45
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 110
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่ขายยาแผนโบราณ ตามมาตรา 71
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
500 –
2,500 บาท ตามมาตรา 116
|
|
ผู้ใดขายยาปลอมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา
72(1)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาปลอม ระวางโทษจำคุกตั้งแต่
1-20 ปี
และปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000บาท ตามมาตรา 119 วรรคแรก
ถ้าไม่รู้ว่าเป็นยาปลอม
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท ตามมาตรา 119 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดขายยาผิดมาตรฐาน อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา
72(2) หรือยาที่รัฐมนตรีสั่งเพิกถอนทะเบียนตำรับยา อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 (6)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาผิดมาตรฐานหรือยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียนตำรับยาระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี และปรับไม่เกิน
5,000 บาท ตามมาตรา 120 วรรคแรก ถ้าไม่รู้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
5,000 บาทตามมาตรา 120 วรรคสาม
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดขายยาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิก อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 (5)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1
ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 120 วรรคสอง ถ้าไม่รู้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
5,000
บาทตามมาตรา 120 วรรคสาม
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดขายยาเสื่อมคุณภาพ
อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72(3)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสามพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 121 วรรคหนึ่ง
ถ้าไม่รู้ว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพ ระวางโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท ตามมาตรา 121 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72(4)
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา
122
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดซึ่งไม่ใช่เภสัชกร
แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ ขายยาชุด ตามมาตรา 75 ทวิ
|
ยาชุดในมาตรา
75 ทวิ ใช้ทั้งยายาแผนโบราณด้วย
และผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณไม่ได้รับการยกเว้นตามมาตรานี้
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 122 ทวิ
|
ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 91
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 125
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดดำเนินการในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
ตามมาตรา 95
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตามมาตรา 125 ทวิ
|
|
กรณีที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า
|
||
ผู้ใดนำเข้ายาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 12
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตามมาตรา 101
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตามมาตรา 46
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 111
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนปัจจุบันย้ายสถานที่นำเข้ายา
สถานที่เก็บยา โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 30
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
2,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 102
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดย้ายสถานที่นำเข้ายา
สถานที่เก็บยาแผนโบราณ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 62
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท ตามมาตรา 112
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนปัจจุบันไม่มีเภสัชกรอย่างน้อย
1 คน ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 24
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ตามมาตรา 103
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนโบราณไม่มีผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ
ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ตามมาตรา 56
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 100 บาท
จนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 113
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดนำเข้ายาภายหลังที่ใบอนุญาตสิ้นอายุแล้วโดยมิได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
|
ระวางโทษปรับเป็นรายวัน
วันละ
100 บาท ตลอดเวลาที่ใบอนุญาตขาดอายุ ตามมาตรา 104
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนปัจจุบันผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
27
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ตามมาตรา 105
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนโบราณผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา
59
|
ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิต
ขาย นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนโบราณ พ.ศ. 2555
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท ตามมาตรา 114
|
นำ
สั่งยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณ
เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านนำเข้าเพื่อตรวจสอบตามที่กำหนด ตามมาตรา 27 ทวิ
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ตามมาตรา 105 ทวิ
|
|
ไม่ขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน
15 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญของใบอนุญาต
กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 28 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 60
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ไม่แสดงใบอนุญาตของตนและผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ติดไว้ ณ ที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 29 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ
ตามมาตรา 61
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตไม่แจ้งเปลี่ยนตัวผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการให้ผู้อนุญาตทราบภายใน
7 วัน นับแต่วันที่ไม่มีผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน
ตามมาตรา 33 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 63
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่แจ้งการเลิกกิจการเป็นหนังสือภายใน
15 วันนับแต่วันเลิกกิจการให้ผู้อนุญาตทราบ กรณีเป็นยาแผนปัจจุบัน ตามมาตรา
35 หรือกรณีเป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรา 65
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้ายาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณแก้ไขรายการทะเบียนตับยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามมาตรา 81
|
การแก้ขนาดบรรจุ
ฉลาก เอกสารกำกับยา โดยไม่ได้รับอนุญาต
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
ไม่ขอใบแทนใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาภายใน
15 วันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลาย ตามมาตรา 87
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน1,000
บาท ตามมาตรา 106
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่แจ้งการจัดให้มีผู้ปฏิบัติการแทนผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการตามมาตรา
33 ทวิ
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
500 บาท ตามมาตรา 107 ทวิ
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่นำเข้าแผนปัจจุบัน ตามมาตรา 44
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 109
|
|
ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ตามมาตรา 68
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
500 –
2,000 บาท ตามมาตรา 115
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่นำเข้ายาแผนปัจจุบันทุกประเภท ตามมาตรา
45
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่ง
1,000
– 5,000 บาท ตามมาตรา 110
|
|
ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ปฏิบัติหน้าที่ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในสถานที่นำเข้ายาแผนโบราณ ตามมาตรา 71
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่
500 –
2,500 บาท ตามมาตรา 116
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาปลอมอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา
72(1)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาปลอม ระวางโทษจำคุกตั้งแต่
1-20 ปี
และปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000บาท ตามมาตรา 119 วรรคแรก
ถ้าไม่รู้ว่าเป็นยาปลอม
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท ตามมาตรา 119 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาผิดมาตรฐาน อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72(2) หรือยาที่รัฐมนตรีสั่งเพิกถอนทะเบียนตำรับยา
อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 (6)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาผิดมาตรฐานหรือยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียนตำรับยาระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี และปรับไม่เกิน
5,000 บาท ตามมาตรา 120 วรรคแรก ถ้าไม่รู้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
5,000 บาทตามมาตรา 120 วรรคสาม
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิก อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 (5)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิกระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1
ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 120 วรรคสอง ถ้าไม่รู้ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน
5,000
บาทตามมาตรา 120 วรรคสาม
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาเสื่อมคุณภาพ
อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72(3)
|
ถ้ารู้ว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสามพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 121 วรรคหนึ่ง
ถ้าไม่รู้ว่าเป็นยาเสื่อมคุณภาพ ระวางโทษปรับไม่เกิน 3,000 บาท ตามมาตรา 121 วรรคสอง
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้าไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตามมาตรา 79
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 123
|
|
ผู้ใดนำเข้ายาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
อันเป็นกี่ฝ่าฝืนมาตรา 72(4)
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา
122
เมื่อมีการลงโทษแล้ว
ให้ริบยา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยารวมทั้งภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยาที่
เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำลายเสียหรือจัดการตามที่เห็นสมควร
ตามมาตรา 126
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้าไม่ส่งรายงานประจำปี
ตามมาตรา 85
|
ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท
และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 100 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง ตามมาตรา 123 ทวิ
|
|
ผู้รับอนุญาตนำเข้าส่งรายงานประจำปี
ตามมาตรา 85 อันเป็นเท็จ
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 123 ตรี
|
|
ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 91
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 125
|
|
ผู้รับอนุญาตผู้ใดดำเนินการในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
ตามมาตรา 95
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
|
|
กรณีที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา
|
||
ผู้ใดโฆษณาขายยาโดยฝ่าฝืนข้อห้ามและเงื่อนไขเกี่ยวกับเนื้อหาและวิธีการโฆษณา
ตามมาตรา 88
มาตรา 88 ทวิ มาตรา 89 มาตรา 90
|
ระวางโทษปรับไม่เกิน
100,000
บาท ตามมาตรา 124
|
|
ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งให้ระงับการโฆษณาขายยาของเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
ซึ่งสั่งตามมาตรา 90 ทวิ
|
ระวางโทษจำคุกไม่เกิน
3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับเป็นรายวันอีกวันละ 500 บาท
จนกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ตามมาตรา 124 ทวิ
|
การเปรียบเทียบปรับ
พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา
126 ทวิ ให้ให้เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาหรือผู้ซึ่ง
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมายมีอำนาจเปรียบเทียบปรับได้ในบรรดาความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว
ในกรณีมีการยึดยา ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุยา
และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาหรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบ
หมายจะเปรียบเทียบปรับได้ต่อเมื่อผู้กระทำความผิดยินยอมให้สิ่งที่ยึดไว้ตก
เป็นของกระทรวงสาธารณสุข
ข้อสังเกต
- ร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ
แม้จะมีขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ
ถือว่าเป็นขายยาที่ไม่ตรงกับประเภทของใบอนุญาตตามมาตรา 19(2) มีบทลงโทษตามมาตรา 102 ซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขของมาตรา
126 ดังนั้นจึงไม่สามารถริบยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษได้
(แนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1377/2517)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น